วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

รายงาน:อภิปรายการกระทำความผิดตามกฏหมายคอมฯ 50 (หน้า 1)

กฏหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์...ผ่าทางตันได้จริงหรือ

ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว เราคงได้เห็นผู้กระทำความผิดเต็มห้องขัง พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ได้ว่างเว้นจากการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ทั้ง เว็บไซต์ลามกอนาจาร การดูหมิ่น หมิ่นประมาท การใช้ เข้าถึงข้อมูล ระบบ เครือข่ายโดยมิชอบ ซึ่งจะเพิ่มรูปแบบและวิธีการที่ซับซ้อนมากขึ้น
หลังจากการดำเนินการปฏิสนธิในการยกร่างกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์มากว่า ๙ ปี ในที่สุด นัวนที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๐ การเดินทางของกฎหมายฉบับนี้ก็กำลังจะออกมาสู่กระบวนการทำคลอดสู่ความเป็น จริงในอีกไม่นานนี้ หลังจากที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีและการลงพระปรมาภิไธยของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนกระทั่งถึง การประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นผลให้อีก ๓๐ วันหลังจากนั้น กฎหมายฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับอย่างสมบูรณ์ท่ามกลาง ความสำเร็จในการมีกฎหมายใช้บังคับกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีประเด็นที่น่าจับตามองว่า กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดฉบับนี้จะนำมาซึ่งการแก้ไขปัญหาการกระทำความ ผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

ประเด็นหนึ่งที่สำคัญก็คือ บทบัญญัติที่ว่าด้วยการรวบรวมพยานหลักฐานที่ เกิดขึ้นและเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด นั่นคือ การเก็บรักษาข้อมูลจราจาคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ โดยผลของกฎหมายฉบับนี้ เป็นผลให้ผู้ให้บริการ ที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ หรือ Traffic Data ไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน นั้น เพื่อให้การเก็บรวบรวมพยานหลักฐานดังกล่าวบรรลุถึงเจตนารมย์อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องสร้างความชัดเจนในสาระสำคัญในด้านต่าง ๆ

เริ่มจาก การตีความคำว่า ผู้ให้บริการนั้นคลอบคลุมถึงใครบ้าง ซึ่งหากหันกลับไปพิจารณาประเภทของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตาม EU Forum on Cybercrime Discussion Paper for Expert’s Meeting on Retention of Traffic Data เมื่อวันที่ ๖ พ.ย. ๒๕๔๔ ที่มีการแบ่งแยกผู้ให้บริการเป็น ๗ กลุ่ม ทั้ง ๑.ข้อมูลอินเทอร์เน็ตบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ๒. ข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่เกิดจากการเข้าถึงระบบเครือข่าย ๓. ข้อมูลในกลุ่มของผู้ให้บริการอีเมล์ ๔. ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตที่เกิดจากการโอนถ่ายข้อมูล ๕.ข้อมูลอินเทอร์เน็ตบนเครื่องผู้ให้บริการเว็บ (Web Servers) ๖.ข้อมูลบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (Usenet) ๗.ข้อมูลที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet Relay Chat)

เท่ากับ ว่า ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจราจรในทั้ง ๗ กลุ่มนั้น จะต้องมีหน้าที่ในการเก็บรักษาข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ ปัญหาที่ถูกตั้งข้อสงสัยก็คือ ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลของผู้ให้บริการในข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ทั้ง ๗ ประเภทนั้น จะมีระยะเวลาที่แตกต่างกันตามสาระสำคัญของข้อมูลหรือไม่ โดยในความเป็นจริงแล้วอาจจะต้องมีการจัดระดับความสำคัญของข้อมูลและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลของผู้ให้บริการที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม หากการเชื่อมต่อ ถ่ายโอนข้อมูลนั้นไม่ได้กระทำผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น การใช้โปรแกรม 2bit ซึ่งเป็นการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่ผ่าน server ปัญหาว่า ในกรณีนี้ใครเป็นผู้ให้บริการก็คงจะเป็นปัญหาในการตีความเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น